สิ่งที่ควรพิจารณาในการเลือกรถเข็นและกระเป๋าสำหรับสุนัขและแมวโรคหัวใจ

สำหรับคนที่เลี้ยงสุนัขหรือแมว ที่ชอบพาสัตว์เลี้ยงออกไปนอกบ้าน อุปกรณ์อย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือ รถเข็น หรือกระเป๋า เพราะจะทำให้การพาสัตว์เลี้ยงของท่านไปไหนมาไหนเป็นเรื่องที่ง่ายและสะดวกขึ้น ลดภาระเรื่องการอุ้มหรือจูงสัตว์เลี้ยงไปได้เยอะมาก และโดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงที่ไม่สบาย ต้องพาออกไปพบหมอบ่อยๆ อย่างเช่นโรคหัวใจ จะต้องไปพบหมอเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง เพราะโรคหัวใจต้องมีการตรวจร่างกาย และ Echo หัวใจ อย่างต่อเนื่องเพื่อมาประเมินการปรับยาโรคหัวใจ Vetmedin และยาอื่นๆ ให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายของสัตว์เลี้ยงในแต่ละช่วงเวลา

การให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในกระเป๋าหรือรถเข็นจะช่วยลดความตื่นเต้นของสัตว์เลี้ยงได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมากกับสัตว์ที่เป็นโรคหัวใจที่อยู่ในระดับที่ต้องทานยา Vetmedin แล้ว  และช่วยให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงไม่ต้องเหนื่อยล้าในการควบคุมพฤติกรรมเวลาที่สัตว์เลี้ยงเจอสัตว์ตัวอื่นหรือคนแปลกหน้า มากไปกว่านั้น การให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในรถเข็นหรือกระเป๋าจะช่วยป้องกันอันตรายในการกัดกันของสัตว์ได้ด้วย

อากาศถ่ายเทสะดวก ช่วยให้สุนัขโรคหัวใจหายใจสะดวก นำยา Vetmedin ไปด้วยทุกครั้ง

จะเห็นได้ว่ามีรถเข็นและกระเป๋าสำหรับสัตว์เลี้ยงขายอยู่มากมาย หลายขนาด หลายแบบ การเลือกรถเข็นและกระเป๋าให้เหมาะสมกับการใช้งานตามงบประมาณที่มีเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกท่านควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อที่จะได้ของตรงตามความต้องการมากที่สุดภายใต้งบประมาณที่เรากำหนด

ก่อนอื่นต้องดูว่าเรามีงบประมาณในการซื้ออยู่ในช่วงราคาเท่าไหร่ ให้วางแผนไว้เป็นช่วงราคาจะดีกว่า เพราะจะทำให้การเลือกสินค้ามีความหลายหลายมากขึ้น

2.     2. ขนาดและน้ำหนักของสัตว์

เช็คขนาดและน้ำหนักของสัตว์เลี้ยงว่า มีน้ำหนักและขนาดเท่าไหร่ โดยขนาดของรถเข็นและกระเป๋าควรมีขนาดที่สามารถให้สัตว์เลี้ยงของท่านหมุนตัว ยืน และ นอนได้อย่างสบายตัว และหากต้องการให้สุนัขหรือแมว อยู่ในรถเข็นหรือกระเป๋าใบเดียวกัน ก็ต้องเลือกรถเข็นหรือกระเป๋าที่มีขนาดใหญ่และแข็งแรงพอที่ไม่ทำให้สัตว์เลี้ยงของเรารู้สึกอีดอัดจนเกินไป

3.     3. ลักษณะการใช้งานและความปลอดภัย

ดูจุดประสงค์ของการใช้งานด้วยว่า หลักๆ แล้ว เราต้องการรถเข็นหรือกระเป๋าเพื่อใช้ทำอะไร ถ้าต้องการพาสัตว์เลี้ยงไปเที่ยวข้างนอกโดยที่เที่ยว และที่จะไปมีบริเวณกว้าง การใช้รถเข็นน่าจะเหมาะสมกว่ากระเป๋า

แต่ถ้าหากต้องการใช้เพื่อพาไปพบแพทย์ กระเป๋าใส่สัตว์เลี้ยงก็น่าจะเหมาะสมกว่า เพราะใช้พื้นที่น้อยกว่า สามารถหาที่วางในบริเวณที่แคบ ๆ ได้ง่ายกว่า โดยทั้งนี้ขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยของสัตว์เลี้ยงของเราด้วยว่าอุปกรณ์ที่เราใช้มีความปลอดภัยหรือไม่ เช่น กระเป๋ามีช่องหน้าต่างให้อากาศไหลเวียนดีไหม การมีช่องหน้าต่างมาก จะช่วยให้สัตว์เลี้ยงของเราไม่ร้อน อากาศถ่ายเทสะดวก  โครงสร้างกระเป๋าหรือรถเข็นมีความแข็งพอกับน้ำหนักสัตว์เราไหม หรือกระเป๋าที่ไม่มีฝาปิด อาจจะทำให้สัตว์เลี้ยงของเราหลุดออกจากรถเข็นหรือกระเป๋าได้  

4.     4. วัสดุความทนทาน

การพิจารณาถึงวัสดุและความทนทานสำคัญอย่างมากสำหรับการตัดสินใจซื้อในราคาที่สูงและไม่ต้องการเปลี่ยนรถเข็นหรือกระเป๋าบ่อยๆ  สิ่งสำคัญคือต้องเป็นวัสดุที่เบาและแข็งแรงพอที่จะรอบรับน้ำหนักของสัตว์เลี้ยงเราได้ หากวัสดุที่ใช้มีน้ำหนักมาก จะทำให้เจ้าของต้องออกแรงมากในการใช้งานหรือแม้แต่การหยิบใช้หรือเก็บ ก็จะไม่ได้รับความสะดวกเท่าที่ควรหากอุปกรณ์ที่ใช้มีน้ำหนักมากเกินไป

5.     5. การเก็บและการพกพา

ควรเลือกรถเข็นและกระเป๋าที่สามารถพับเก็บและโยกย้ายได้สะดวกและประหยัดเนื้อที่ เพราะจะทำให้การจัดสรรเนื้อที่ ในสถานที่ที่เราไปใช้งายทำได้ดีมากขึ้นและไม่แกะกะเมื่อยังไม่มีความต้องการใช้ การพับเก็บจะช่วยป้องกันฝุ่นได้อีกด้วย

6.     6. ความสวยงานหรือดีไซน์

มีรูปแบบใหม่ๆ ดีไซน์สวยๆ ให้เลือกมากมาย โดยราคาก็อาจจะแพงขึ้น ทั้งนี้ขอให้เจ้าของมองถึงความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยและการใช้งานเป็นหลักก่อน เพราะเป็นสิ่งที่สำคัญกับสัตว์เลี้ยงของท่านมากว่าความสวยงาม

7.     7. สถานที่ซื้อ

ขอให้เลือกซื้อกับร้านที่มีประวัติการขายที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ต้องซื้อสินค้าในราคาที่แพง ขอให้เลือกร้านที่มีประวัติการขายมานานแล้ว ไม่ใช้ร้านที่เปิดใหม่ในร้านค้า online  ถ้าร้านที่ซื้อมีหน้าร้านที่สามารถเข้าไปดูสินค้าจริงได้ ก็แนะนำให้ไปดู ไปลองเข็นและยกดู ว่าน้ำหนักขนาด และวัสดุ เหมาะสมกับราคาที่เราจะต้องจ่ายหรือไม่

จากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ คือสิ่งที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อรถเข็นและกระเป๋าสัตว์เลี้ยงที่ทุกท่านควรทราบเพื่อที่จะได้กระเป๋าและรถเข็นที่ถูกใจทั้งน้องหมาน้องแมวและเจ้าของ อย่างไรก็ตามหากสัตว์เลี้ยงมีอาการป่วย ก็ไม่แนะนำให้พาน้องออกไปเที่ยวนอกบ้าน เพราะจะทำให้ร่างกายน้องอ่อนเพลียมากขึ้น โดยเฉพาะถ้าสุนัขหรือแมวที่เป็นโรคหัวใจ ไม่ควรพาน้องออกไปนอกบ้านนานเกินไป โดยต้องคอยสังเกตอาการของน้องด้วยว่ามีอาการเหนื่อยหรือหอบหรือตื่นเต้นหรือไม่ และควรนำยาที่สัตว์เลี้ยงต้องทานติดออกไปด้วยเพื่อไม่ให้สัตว์ที่เป็นโรคหัวใจขาดยาเพราะยาโรคหัวใจ Vetmedin ต้องทานอย่างต่อเนื่อง ไม่ควรขาดยา